จุดประกายจินตนาการ สร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานของ Van Cleef & Arpels ได้อยู่ตลอดเวลา ล่าสุด คอลเลคชั่นเครื่องประดับชุดใหม่อาศัยเข็มกลัด9แบบ
ประกอบไปด้วยแมว สิงโต นกฮัมมิงเบิร์ด และกระต่าย ฝูงสัตว์อัญมณีทั้งหลายกำลังก้าวไปตามรอยทางที่ผลงานสร้างสรรค์แห่งความสนุกสนานของ “La Boutique” ซึ่งเมซงได้วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในระหว่างทศวรรษ 1950
ท่ามกลางความน่ารัก น่าเอ็นดู สัตว์ทั้งหลายถ่ายทอดความสดใส มีชีวิตชีวาผ่านท่วงท่าสง่างาม มอบความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น ด้วยเส้นสายละมุนละไมในทรวดทรงอันอ่อนช้อย ดวงตาดำขลับทำจากนิลกาฬ ทอประกายสุกสกาววาววับราวกับพวกมันกำลังหยุดนิ่ง เงี่ยหูฟังเสียง และสังเกตสังกา
ในขณะที่แผ่นแม่มุกเรืองรองกับบรรดาพลอยเนื้อแข็งเจิดจรัสอาศัยงานฝังขึ้นตัวเรือนสุดวิจิตรบรรจง ต้องแสงสะท้อนจากบรรดาลูกปัดทองที่ใช้เดินขอบเป็นกรอบรอบตัวเรือนทอแสงสว่างสะกดสายตา รายละเอียดทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นจงอยปากนก ปากที่ยื่นยาวของหมาน้อย หนวดแมวหรือแผงขนบนคอสิงโต ต่างล้วนเติมเต็มบุคลิกเฉพาะตัวของสัตว์ต่างสายพันธุ์ได้อย่างทรงเอกลักษณ์สมจริง
พลอยเนื้อแข็งซึ่งนำมาใช้ตกแต่งเป็นตัวสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพลอยตาเสือ (tiger’s eye), พลอยนกยูง(malachite), พลอยน้ำสมุทร (lapis lazuli), พลอยแดงคาร์เนเลียน (carnelian) หรือนิลกาฬ (onyx) ล้วนจำลอง เฉดสีขนสัตว์ตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขนนกหรือขนปุกปุย อย่างระยับแสงสีทองจากแถบลายริ้วน้ำตาลอมทองของเนื้อพลอยตาเสือ ซึ่งผ่านการเลือกสรรมาอย่างดีเพื่อให้เทียบเคียงกับแนวเหลื่อมเฉดไล่สีเป็นลอนคลื่นของขนกระต่าย หรือนิลกาฬขัดผิวเงางามวามวาวดำขลับล้ำลึกไม่ต่างอะไรจากขนแมวดำยามต้องแสง ในขณะที่พลอยน้ำสมุทรกับพลอยนกยูงถูกนำมาตกแต่งต่างขนนกฮัมมิงเบิร์ดซึ่งกำลังกางปีกบิน ส่วนพลอยแดงคาร์เนเลียนก็ชวนให้นึกถึงเฉดน้ำตาลอมแดงงดงามของปุยขนกระรอก
บนเข็มกลัดแต่ละชิ้น รัตนชาติเลอค่าถูกนำมาประกอบร่วมกัน หรือจับคู่กับแผ่นแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล(mother-of-pearl) อย่างได้สัดส่วน ก่อลูกเล่นสีสันกับเงาสะท้อนเพื่อทำให้สัตว์ทุกตัวมีความโดดเด่น สะดุดตา
บรรดาเฉดสีที่หลายหลากมากตัวเลือกของพลอยเนื้อแข็งนานาชนิด สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ Van Cleef & Arpels เสมอมา ดังความนิยมในทศวรรษ 1960 รัตนชาติเหล่านี้คือบทสะท้อนของการค้นหาวัตถุดิบใหม่ เฉดสีที่มีความ สดใหม่กับการออกแบบรูปทรงอันถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของยุคสมัย หลังจากนั้น พลอยเนื้อแข็งเหล่านี้ก็ถูกนำมาใช้ในงานผลิตเครื่องประดับอัญมณี และเครื่องประดับชั้นสูงคอลเลคชั่นต่างๆ ของเมซงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่ง พร้อมมูลในมวลธรรมชาติ
การนำพลอยเนื้อแข็งมาตกแต่งร่วมกับแผ่นแม่มุกให้มีความลงตัวอย่างที่สุด ต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญเฉพาะด้าน Van Cleef & Arpels คัดเลือกวัสดุเหล่านี้ตามมาตรฐานคุณภาพเคร่งครัดอย่างที่สุด นั่นคือเนื้อสีต้องมีความสว่าง กระจ่างชัด และสม่ำเสมอ กลมกลืน พร้อมกันนั้น “เส้นชีพจร” หรือลายริ้วของเนื้อพลอยดังปรากฏในพลอยตาเสือ และพลอยนกยูงจะต้องไล่เรียงเป็นลำดับสม่ำเสมอทั่วพื้นผิวหน้าตัด
แผ่นแม่มุกขาวก็ถูกเลือกโดยพิจารณาจากคุณสมบัติเฉพาะ จึงกลายเป็นวัสดุที่หาได้ยากยิ่งเช่นกัน เพราะเนื้อสีต้องมีความสม่ำเสมอ โทนสีต้องขาวกระจ่าง ไม่หม่น หรือมีเงาหมอง ในขณะที่แม่มุกสีเทาก็ต้องมีประกายเงางามสลับแซมด้วยเหลื่อมเฉดสีฟ้าหม่น หรือชมพุละมุนอย่างละเมียดละไม การจัดระเบียบแสง และเงาสะท้อน กับการจับคู่วัสดุหลากประเภทให้มาอยู่ร่วมกันบนเข็มกลัดชิ้นเดียวจำเป็นต้องใช้ความพิถีพิถัน และประณีตแม่นยำอย่างสูง ทั้งในแง่ของการเลือกและจัดตำแหน่ง
ความเป็นเลิศสูงสุดทางงานฝีมือของเมซงยังปรากฏอย่างโดดเด่นผ่านงานตัดเจียนพลอย และแม่มุกให้กลายเป็นแผ่นบางเฉียบ ทุกชิ้นส่วนในขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความระมัดระวังยิ่งอันเนื่องจากมิติชิ้นงานมีขนาดเล็กพิเศษ จากนั้นจึงไปสู่ขั้นตอนของการขัดผิวอย่างพิถีพิถันเพื่อให้แต่ละวัสดุมีความสามารถในการสะท้อนแสงเป็นประกายเงางามอย่างอ่อนโยน เมื่อนำมาประกอบร่วมกันบนตัวเรือน แต่ละองค์ประกอบก่อทรวดทรงอ่อนช้อย วิจิตรบรรจงอยู่ใน วงล้อมของกรอบลูกปัดทองที่จะช่วยสะท้อนแสงลงมาตกกระทบให้จรัสประกายสุกสว่างเลอค่าถึงขีดสุด
เครื่องประดับสัตว์นำโชค Lucky Animals สืบทอดสุนทรียศิลป์ทางการออกแบบ และไหวพริบในการพลิกแพลงทักษะ ความชำนาญด้านการผลิตของ Van Cleef & Arpels ได้อย่างชัดเจน และครบครันผ่านผลงานการสร้างสรรค์อันงามสง่า ละเมียดละไม และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้เป็นเครื่องประดับประจำวัน
นับจากแรกเริ่ม เครื่องประดับของ Van Cleef & Arpels ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรของบรรดาสัตว์โลกที่เต็มไปด้วยความงามสง่าในท่วงท่าอ่อนช้อย อย่างฝูงปักษาฝังเพชร, ผีเสื้อหลากสี, กระรอกแสนซน, กระต่ายจอมกระโดด รวมถึงสัตว์อื่นๆ อีกมากมายที่มาร่วมกันเติมเต็มความครบครันในสวนสัตว์ของเมซงอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายต่อหลายปี
เมื่อปี 1954 ฝูงสัตว์อันงดงามในคอลเลคชั่น “La Boutique” ได้ร่วมกันจารึกประวัติศาสตร์บทใหม่ให้แก่เมซงผ่านงานออกแบบกระจุ๋มกระจิ๋ม อ่อนโยน เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ท่ามกลางผลงานที่ “น่ารัก & น่าเอ็นดู” สิงโต Lion ébouriffé (ลิองเนบูริฟฟ์) กับแมวเจ้าเล่ห์ Chat malicieux (ชาต มาลิซิเออซ์) กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ตัวแทนแบบฉบับของคอลเลคชั่นอันเป็นที่รักจากท่วงท่าซุกซน ชวนให้ผู้พบเห็นต้องเผลอยิ้มออกมา ในปี 2016 “เรือของโนอาห์” หรือ L’Arche de Noé racontée par Van Cleef & Arpels ซึ่งถือเป็นคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูง ได้นำแนวทางการออกแบบจากอาณาจักรสัตว์โลกกลับมาใช้ผ่านการจับคู่พลอยเนื้อแข็ง และรัตนชาติล้ำค่าชนิดอื่นๆ สำหรับวันนี้ นี่คือการหวนคืนสู่งานออกแบบสร้างสรรค์ “สัตว์นำโชค” Lucky Animals เพื่อยกย่องความสำคัญของการใช้สีกับประกายสุกสว่างสดใส หนึ่งในแนวทางที่เมซงนิยมชมชอบเป็นที่สุดเพื่อเล่าเรื่องราวความอ่อนโยน และสนุกสนานในธรรมชาติ