เรียนรู้ความโดดเด่น ประวัติศาสตร์ชีสฝรั่งเศส ชีสยุโรปผ่านงาน Europe, Home of Cheese ปีล่าสุด
เวลาพูดถึงชีสฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น Fourme d’Ambert, Emmental, Mimolette, Brie, Comté และอีกหลายๆตัวที่ไม่ว่ากินเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ แล้วทำไมชีสฝรั่งเศส ยุโรป ใครๆถึงติดใจ?
เหตุผลหลักคือความหลากหลายและใช้ปรุงได้อเนกประสงค์ขนาดไหน ทั้งเนื้อแข็ง เนื้อนิ่ม เนื้อกึ่งแข็ง บลูชีส ชีสล้างน้ำเกลือ (washed rind) และชีสแปรรูป รวมถึงเผยเคล็ดในการชิมให้สามารถแยกความแตกต่างของชีสแต่ละประเภท ความสำคัญของเครื่องปรุง ‘ของแท้’ ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางธรรมชาติ
ผู้คนอาจจะรักชีสโดยไม่สนใจที่มา แต่ความจริงแล้วรายละเอียดกว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ชีสหนึ่ง ๆ นั้นไม่น้อยเลย และชีสฝรั่งเศสเองก็มีมากกว่า 1,200 ชนิด โดยที่แต่ละชนิดก็มีลักษณะกลิ่น สี รสชาติ และเนื้อสัมผัสแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศที่ผลิต ซึ่งรวมถึงสภาพอากาศ สภาพดิน และแร่ธาตุที่อยู่ในดินบริเวณนั้น ๆ ด้วย ถ้าคุณคนรักชีสทั้งหลายไม่เคยทราบมาก่อนมาชีสมีได้มากถึงขนาดนี้ และสถานที่ผลิตสำคัญกับผลิตภัณฑ์มากแค่ไหน ลองมากดติดตามแล้วเรียนรู้ไปกับเราได้เลย!
ประวัติศาสตร์ชีสฝรั่งเศสเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่คิดมากนัก และจากรุ่นสู่รุ่น แต่ละภูมิภาคในประเทศก็ค่อย ๆ พัฒนากระบวนการทำฟาร์มและผลิตผลิตภัณฑ์นมเนยของตัวเอง โดยยังรักษาสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใครไว้ได้ครบถ้วน ทำให้ฝรั่งเศสเต็มไปด้วยชีสที่มีลักษณะโดดเด่น เฉพาะตัว และหลากหลาย ทั้งกลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัส ทั้งหมดนี้ รอให้ผู้บริโภคและคนรักชีสในประเทศไทย ได้ลองชิม ลองค้นหา ชีสในแบบที่ชอบกันในงานนี้

ชีสเป็นวัตถุดิบประจำบ้านที่บ้านเราต้องมีติดตู้เย็นไว้ตลอด บ้านเราเป็นบ้านลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส ส่วนตัวแล้วชอบความง่าย สะดวกสบาย เวลาขี้เกียจทำกับอาหารที่มีขึ้นตอนเยอะเราก็จะสอนลูกๆว่า ถ้าเครื่องปรุงอาหารมันยุ่งยากแก่การจำ ให้ใส่ชีสลงไป ไม่ว่าอาหารตัวไหนก็เอาอยู่
ชีสเป็นอาหารที่เราจะรับประทานเปล่า ๆ เลยก็ได้ นำไปทาขนมปังก็ได้ หรือนำไปปรุง ประกอบอาหาร ก็ได้เช่นกัน ถ้าเราเลือกเพิ่ม เนื้อสัมผัสที่ครีมมี่ เข้มข้น หรือในแบบที่มีติดรสเค็ม รสชาติลุ่มลึก ทำให้ซับซ้อน แน่นอนสำหรับลูกๆเราเป็นอีกบ้านที่ชอบพูดว่า เขาไม่สามารถอยู่โดยไม่มีชีสได้เลย เรียกได้ว่าหลงเสน่ห์ของมันเข้าไปเต็มๆ

Europe, Home of Cheese ธีมของงานปีนี้คือ Anywhereหรือ ‘ทุกที่’ ที่ไหน เมื่อไร ก็เหมาะจะมีชีส!
ชีสมาสเตอร์คลาสโดย เชฟมูมู่ จักรทอง อุบลสูตรวนิช เจ้าของและเชฟจากร้านMaison Bleueและเชฟเจริโก้ แวน เดอร์ วูล์ฟ
เชฟเจริโก้ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่ม LOVA Hospitality รวมถึงเคยรับหน้าที่เอ็กเซ็กคิวทิฟเชฟให้กับหลายร้านอาหารชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่าง Cocotte, Mozzaและ Victoria กล่าวว่า ในฐานะที่เขาเป็นคนฝรั่งเศส และยิ่งไปกว่านั้นยังทำอาชีฟเชฟด้วย เขาจึงรู้สึกเหมือนกับถูกแวดล้อมด้วยชีสและเรื่องราวของชีสมาตลอดชีวิต

เมื่อถามถึงเมนูจากชีสฝรั่งเศสที่โปรดปรานที่สุด ที่สามารถลิ้มลองได้ทุกที่ เชฟแนะนำเมนู Croque Monsieur หรือก็คือแซนด์วิชแฮมชีสที่นำไปย่างทั้งสองด้านนั่นเอง เขาเพิ่มเติมเหตุผลด้วยว่า “มันเป็นเมนูที่พกพาได้ ตัวขนมปังด้านนอกกรุบกรอบ ได้รสชีสเบชาเมลที่ละมุนนุ่มลิ้น และรสเค็มของแฮม ซึ่งถ้าชิมตอนกำลังอุ่น ๆ จะได้รสชาติที่วิเศษมาก
ด้านเชฟมูมู่ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านขนมอบคุณภาพพรีเมียมกับร้าน Let Them Eat Cake ร้านปาทิสเซอรีชื่อดัง กล่าวถึงความสัมพันธ์ของตัวเธอกับชีสฝรั่งเศสว่าเป็นความสัมพันธ์แบบ ‘ไม่รู้จักพอ’ โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า “ส่วนตัวแล้วหยุดกินชีสไม่ได้เลย มีแค่ตอนทำอาหารเท่านั้นที่รู้สึกว่าเริ่ม ‘ควบคุม’ ชีสได้บ้าง แน่นอนว่าต้องพยายามหลายครั้งอยู่ล่ะ”
นอกจากนั้น เธอยังกล่าวว่าชีสเป็นอาหารที่ผูกโยงกับหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดของเธอด้วย เธอจำช่วงที่ต้องแวะร้านขายชีสในย่านที่เคยอาศัยในกรุงปารีสอยู่บ่อยครั้ง โดยเธอมักเลือกซื้อชีสที่ผสมลูกเกดและมะเดื่อแห้งเข้าไปในเนื้อแล้ว และเล่าว่าเธอ “สามารถเคี้ยวเพลิน ๆ ได้จนหมดทั้งก้อนทีเดียว ซึ่งมันควรจะเป็นชีสที่เก็บไว้กินได้ทั้งสัปดาห์! มันเป็นของกินที่สะดวกมาก ๆ บริโภคได้ง่ายมาก ๆ เลย”
ภายในงาน สองเชฟได้ตอบคำถามของผู้เข้าร่วมทุกท่านแบบโต๊ะต่อโต๊ะ ในบรรยากาศที่แสนจะโคซี่และเป็นกันเอง ทั้งหมดนี้เพื่อเน้นย้ำให้นักชิมทั้งหลายเข้าใจถึงความสำคัญของเครื่องปรุง ‘ของแท้’ ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางธรรมชาติ ซึ่งชีสฝรั่งเศสมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน และเชฟทั้งสองหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักชิมชาวไทยที่เข้าใจถึงความจริงข้อนี้จะสามารถเลือกชีสคุณภาพเยี่ยมได้เองในชีวิตประจำวัน