เทียบชัด! หลอดไฟเกลียว vs หลอด LED แบบไหนใช้งานในบ้านคุ้มกว่า?
การเลือกหลอดไฟนั้นสำคัญกว่าที่คิด เพราะ นอกจากจะช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับแต่ละบริเวณของบ้านได้อย่างเหมาะสมแล้ว การเลือกหลอดไฟให้ถูกประเภทกับการใช้งานยังสามารถช่วยประหยัดไฟ และเพิ่มเสน่ห์ง่าย ๆ ให้กับบ้านอีกด้วย เพราะ ลองคิดดูง่าย ๆ ถ้าหากเลือกหลอดไฟไม่ดี มุมสวย ๆ ของบ้านก็จะดูเต็มไปด้วยไฟ ทำให้การอยู่อาศัยไม่สบาย และดูอึดอัดได้ ซึ่งหากเจ้าของบ้านคนไหนกำลังตามหาหลอดไฟที่เหมาะกับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกหลอดไฟเกลียวหรือหลอดไฟ LED ดี วันนี้เราจะขอถือโอกาสพาทุกคนไปสำรวจหลอดไฟทั้ง 2 ประเภทเพื่อคลายทุกความสงสัยกัน แล้วแต่ละหลอดจะเป็นยังไง ไปเลือกชมพร้อมกันเลย!

หลอดไฟเกลียวคืออะไร
หลายคนอาจจะงงเวลาพูดถึงชื่อหลอดไฟเกลียว แต่ถ้าหากเรียกว่าหลอดตะเกียบ หลอดจินี่ หรือหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์คงจะมีช่างหรือเจ้าของบ้านหลาย ๆ คนถึงบางอ้อกันทันที โดยหลอดไฟประเภทนี้นั้นมาพร้อมกับการใช้งานที่ทนทานได้สูงกว่า 7 ปี หรือหากเทียบเป็นชั่วโมงก็จะตกอยู่ที่ 8,000 – 9,000 ชั่วโมง ซึ่งตัวหลอดนั้นจะให้ความสว่างที่สูง อีกทั้งยังมีอุณหภูมิพอประมาณ ดังนั้น การอยู่ในบ้านที่ติดหลอดไฟเกลียวจะให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นได้ โดยส่วนใหญ่ ช่างไฟมักแนะนำให้ติดหลอดไฟประเภทนี้ไว้ที่ห้องทำงานที่ต้องการแสง ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำ
แล้วหลอด LED ดีไหม
หากเจ้าของบ้านคนไหนอยากตามหาทางเลือกอื่นนอกจากหลอดไฟเกลียว การเลือกใช้หลอดไฟ LED ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ได้เช่นเดียวกัน โดยหลอด LED นั้นขึ้นชื่อได้ว่าหลอดไฟที่ทนทานที่สุดในยุคนี้ เพราะ นอกจากจะสามารถใช้งานได้สูง 30,000 – 50,000 ชั่วโมงแล้ว หลอดไฟชนิดนี้ยังไม่มีรังสี UV รวมถึงสารพิษและแก๊สอันตราย ที่สำคัญ กินไฟน้อยกว่าหลอดไฟเกลียวอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หลอด LED นั้นจะเหมาะสำหรับห้องทำงานและห้องนอนเพื่อให้ได้ไฟอย่างยาวนาน และมีการใช้งานที่สูง
เลือกหลอดไฟแบบไหนดี
จะเห็นได้ว่าหลอดไฟเกลียวและหลอดไฟ LED นั้นจะมีการใช้งานที่ไม่แตกต่างกันมาก ดังนั้น หากบ้านไหนเน้นความปลอดภัยและการใช้งานระยะยาว การติดตั้งหลอดไฟ LED ก็อาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่า แต่หากบ้านไหนอยากได้อุณหภูมิความอบอุ่น และจ่ายราคาที่น้อยกว่าหลอด LED การเลือกหลอดไฟแบบเกลียวหรือหลอดจินี่ก็จะเหมาะกับความต้องการได้มากกว่า
ง่าย ๆ เพียงแค่นี้ก็เลือกหลอดไฟที่เหมาะกับบ้านได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะเลือกหลอดไฟแบบไหน อย่าลืมเปิดปิดไฟเท่าที่จำเป็น และปิดไฟทุกครั้งหลังใช้งานเพื่อประหยัดไฟและค่าใช้จ่ายในบ้านด้วยนะ