เก็บเงินก้อนอย่างไรให้อยู่? มาดูวิธีคิดของการเก็บเงินยุคใหม่กัน
ใครๆ ก็อยากเก็บเงินก้อนโตให้ได้ แต่ปัญหาที่เกิดมักอยู่ที่ความใจอ่อนต่อสิ่งเย้ายวนรอบตัวนี่แหละ แต่ถ้าหากคุณมีความตั้งใจจริงว่าจะต้องมีเงินก้อนเพื่อนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่คุณวาดฝันเอาไว้ ฉะนั้นแล้วก็ต้องควบคุมตัวเอง และบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนต่อการใช้จ่าย สำหรับใครที่ต้องเจอกับปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ คุณอาจจะต้องมีการวางแผนทางด้านการเงินเสียใหม่ เพื่อให้แผนระยะยาวที่คุณตั้งเอาไว้เป็นไปอย่างที่คุณต้องการ หรืออย่างน้อยๆ การเก็บเงินก้อนได้ ก็ยังจะช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นใจหากเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายที่ต้องใช้เงิน จะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนพึ่งใครให้วุ่นวาย
แล้วจะมีวิธีการเก็บเงินก้อนอย่างไร ให้สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายตัว และไม่เดือดร้อนมากมายนัก วันนี้เรามีวิธีดีๆ มาฝากกัน
1. เทคนิคการเก็บเงินก้อนด้วยแอปเก็บเงิน
หากใครที่เป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ การใช้แอปเก็บเงินก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้คุณสามารถมีเงินเก็บได้ไม่ยาก เพราะด้วยระบบของแอป สามารถตั้งค่าการเก็บเงินได้อย่างอัตโนมัติในทุกเดือน ไม่ต้องห่วงเลยว่าเดือนไหนคุณจะลืมเก็บเงิน เพราะถ้าหากคุณตั้งค่าเอาไว้แล้วว่า ในแต่ละเดือนคุณต้องการเก็บเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ จำนวนเงินเหล่านั้นก็จะถูกหักออกจากบัญชีของคุณ เพื่อไปอยู่ในบัญชีออมทรัพย์นั่นเอง สำหรับวิธีนี้บางแอปยังจูงใจผู้ใช้ด้วยการให้ดอกเบี้ยเงินออมที่ดีอีกด้วย แนะนำเลยสำหรับใครที่ต้องการเก็บเงินก้อนให้อยู่ต้องลอง
2. อะไรที่ตัวเองมีความสุข ไม่ทำร้ายผู้อื่น ก็ทำไปเถอะ อย่าเครียดเป็นพอ
ใครว่าการเก็บเงินก้อนให้ได้จะต้องบังคับตัวเองให้เป็นแบบแผนไปเสียทุกอย่าง ซึ่งหากเคร่งมากจนเกินไปก็ส่งผลเสียกับตัวเราได้เช่นกัน ฉะนั้นแล้วหากคุณเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่า สามารถที่จะเก็บเงินได้ เพราะทำเป็นประจำทุกเดือน อีกทั้งยังวางแผนนำเงินไปลงทุนในด้านต่างๆ อีกด้วย คุณอาจจะให้รางวัลตัวเองบ้าง อย่างการไปช้อปปิ้งซื้อของที่ตัวเองอยากได้ เนื่องในโอกาสสามารถเก็บเงินได้เป็นประจำครบ 6 เดือน ซึ่งเมื่อคุณมองตัวเลขในบัญชีแล้วคิดว่า ทำไมคุณเก่งอะไรเช่นนี้ที่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะให้รางวัลกับตัวเองใช่มั้ยล่ะ
3. แบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุน
หากใครที่อยากเก็บเงินก้อนให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด ควรที่จะเริ่มมองหาลู่ทางในการนำเงินไปลงทุนบ้าง ยกตัวอย่างหากคุณต้องเสียภาษีอยู่เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว อีกทั้งยังเสียไม่เลยต่อปี การเลือกซื้อกองทุน หรือประกันที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะสร้างความคุ้มค่าให้กับการใช้ชีวิตได้อยู่เหมือนกัน เพราะนอกจากประกันจะช่วยคุ้มครองเราหากเกิดเหตุที่เราไม่คาดคิด ก็ยังจะช่วยให้เราอุ่นใจ เพราะมีคนคอยดูแลทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาต่างๆ รวมถึงสิ้นปีที่มีการจ่ายภาษี เราก็อาจได้เงินภาษีกลับคืนมาอีกด้วย