โก๊ะ-นิพนธ์ สนธิ
นอกจากความน่าสนใจของเรื่องราวในภาพยนตร์ 777 นะชาลีติ (พระสีวลี) ที่กำลังลงโรงฉายอยู่ในขณะนี้ เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ได้นักร้องเสียงดีอย่าง โก๊ะ-นิพนธ์ สนธิ มาเป็นผู้ถ่ายทอดก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน แถมยังได้มือดีอย่าง เป้ ไฮร็อค หรือ อนุวรรตน์ ทับวัง มาเป็นคนแต่งยิ่งทำให้เพลงนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยโก๊ะได้พูดถึงการทำงานครั้งนี้ว่า
“ไม่เคยร้องเพลงประกอบหนังเลย นี่ถือเป็นการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ครั้งแรกเป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่เรานับถือด้วย เป็นการร้องเพลงที่เป็นเพลงเกี่ยวกับประวัติของพระสิวลี เป็นระยะของความเป็นมาของพระสิวลี ว่าเหมือนเป็นลิขิตฟ้าใช่ไหมที่ทำให้พระองค์ต้องอยู่ในท้องถึง 7 ปี และต้องเกิดมาเสียสละอุทิศตนเองเพื่อผู้อื่นอีก
ปกติด้วยความที่ผมชอบร้องเพลงที่ค่อนข้างมีความหมายอยู่แล้ว แล้วพอมาร้องเพลงที่มันไม่ได้มีความหมายเกี่ยวกับความรักมันก็ต่างกันแต่มันก็เป็นการถ่ายทอดความหมายเหมือนกันเพียงแค่เป็นความรักคนละแบบ เป็นความรักที่พระองค์มีให้กับเพื่อนมนุษย์รักคนทั้งโลกไม่ใช่ความรักในเชิงชู้สาว มันเป็นรักที่บริสุทธิ์จริงๆ มันจึงสื่อสารค่อนข้างยาก ตอนแรกพี่เป้ ไฮร็อค บอกว่าจะให้ผมเป็นคนร้อง ซึ่งเพลงนี้พี่เป้เป็นคนแต่ง ซึ่งเนื้อร้อง/ทำนอง เราอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจพอเราไปร้องพี่เป้ก็จะขยายความให้เราเข้าใจทีละท่อนทีละท่อนว่าแต่ละท่อนเราต้องรู้สึกแบบนี้นะ ต้องรู้สึกยังไงมันตีความยังไง เราก็เลยรู้สึกว่าเออมันทำให้การตีความสำหรับเราง่ายขึ้น
ตอนแรกผมร้องไปส่งเดชเลยคือร้องแค่ให้มันเพราะ ปกติตามความเข้าใจเราคือเราไม่ใช่คนเขียนเพลงเราเป็นนักร้อง เราก็ร้องไห้มันเพราะให้มันตรงเมโลดี้แต่มันยังไม่เข้าถึงเพลงมากพอ พี่เป้ก็เลยบอกให้เอาใหม่ แล้วพี่เป้ก็บอกมาทีละท่อนทีละท่อนเลยว่าความหมายอารมณ์มันเป็นยังไง พอเขาบอกมาเท่านั้นแหละเราก็รู้สึกว่าเฮ้ยเราร้องได้เราสื่ออารมณ์ได้ ตอนหลังพี่เป้ก็บอกว่าเราร้องแล้วมันสื่อถึงคนดูได้แล้วนะ พี่โอเคแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมก็รู้สึกดีใจที่เราทำได้ คือพี่เป้เขาดูเราตั้งแต่ตอนแรกแล้ว เขาก็ไม่ได้กดดัน ให้เราร้องเป็นตัวของตัวเราตั้งแต่ตอนแรก แต่เพียงแค่ให้เอาอารมณ์เพลงให้อยู่แค่นั้น ใส่ความเป็นเราเข้าไปด้วย
จริงๆ คนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ประวัติพระพุทธเจ้าหรือปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 และพระอานนท์แต่พระสิวลีที่คนไทยก็นับถือมาตลอดเรื่องการประทานโชคลาภและความร่ำรวย หลายคนยังไม่รู้จักประวัติของท่าน ผมเองก็ถือเป็นการรู้จักประวัติของท่านเป็นครั้งแรกเหมือนกัน
ตอนที่เราร้องรอบแรกรู้สึกว่ามันยังไม่ได้ พี่เป้ก็เลยเล่าประวัติพระสิวลีให้เราฟังคร่าวๆ เราก็เลยรู้สึกว่าขนลุกเลย มันเหมือนเป็นโชคชะตาของเราใช่ไหม ที่ได้มาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ รู้สึกว่าเราได้รับเกียรติมาก เป็นเกียรติอย่างสูงในชีวิตเลย เหมือนเป็นการฉีกกฎการร้องเพลงเดิมๆ ของเรา ฉีกกฎการร้องแนวรักๆ ใคร่ๆ เพลงผิดหวังสมหวัง ของเราโดยสิ้นเชิงเพราะอันนี้เป็นความรักที่เสียสละอันยิ่งใหญ่เป็นความรักที่บริสุทธิ์มาก เรียกได้ว่าเป็นรองพระพุทธเจ้าแค่นั้นพอเราตีความเสร็จเราก็ต้องจำลองตัวเองว่าเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ และเราก็ถ่ายทอดมาเป็นสไตล์ของเราอีกทีนึง ซึ่งก็อยากให้ทุกคนได้ฟังเพลงนี้พร้อมกันครับ”