อย่าให้ใครว่าไทยไม่รักษ์สิ่งแวดล้อม
เครือข่ายอนาคตไทย ผู้ขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ระดับชาติ ภายใต้ชื่อ “อย่าให้ใครว่าไทย” เพื่อ ลด ละ เลิก 4 พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ (โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย ขาดสติ) จึงได้นำทีมภาคีรวมพลังทำดีตอบแทนสังคม ในกิจกรรม “อย่าให้ใครว่าไทยไม่รักษ์สิ่งแวดล้อม กับเครือข่ายอนาคตไทย ตอน ปลูกปะการัง ชมเต่า ไม่เอาขยะ” โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกเครือข่ายผ่านการทำงานร่วมกัน ด้วยการเก็บขยะบริเวณชายหาดนภาธาราภิรมย์ สนามบินอู่ตะเภา และชายหาดอ่าวดงตาล จ.ชลบุรี และมอบถังขยะ “อย่าให้ใครว่าไทย” เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกหยุดพฤติกรรมมักง่าย ไม่เท ไม่โยน ไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ ในมิติ “อย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย” ให้เป็นที่รับรู้ในสังคม ตลอดจนเชิญชวนประชาชนโดยรอบให้เกิดความตระหนักในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมใจกันรักษาความสะอาด อย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย
ธาตรี ลิขนะพิชิตกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันมั่นพัฒนา เล่าถึงโครงการรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ที่ทางมูลนิธิฯ ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และสภาหอการค้าไทย ริเริ่มขึ้น จนเกิดการรวมตัวกันขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นเครือข่ายอนาคตไทย “เราพบว่าในปัจจุบันมีคนไทยจำนวนหนึ่งที่อาจมีทัศนคติ นิสัย และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แม้ในบางเรื่องจะดูเล็กน้อยแต่ได้ก่อให้เกิดปัญหาให้แก่ประเทศขึ้นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ชัดเจนเลยคือเรื่องของขยะที่ส่วนใหญ่จะเกิดจากความมักง่ายของมนุษย์ ซึ่งเมื่อปัญหาเกิดจากคนก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของคนที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา กิจกรรมในวันนี้จึงเกิดขึ้นด้วยความตระหนักและให้ความสำคัญใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม โดยเหตุที่เลือก จ.ชลบุรี เพราะว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเราจึงมุ่งหวังที่จะปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ นิสัย และหยุดพฤติกรรมมักง่าย ไม่เท ไม่โยน ไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ แก่ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ พร้อมถือเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างสมาชิกองค์กรภาคีเครือข่ายอนาคตไทยด้วย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 108 องค์กร”
ด้าน นาวาโท อภินพ กิตติกุลวานิช นายทหารเวรยุทธการ กองการบินทหารเรือ กล่าวถึงปัญหาขยะที่ได้รับผลกระทบว่า “หาดที่นี่จะสังเกตเห็นได้ว่าลักษณะเป็นอ่าวปิด คือเป็นโค้งไม่มีทางออก เพราะฉะนั้น ช่วงฤดูกาลที่มีมรสุม ลมต่างๆ พัดเข้าหาฝั่ง ทำให้เกิดปัญหาขยะ บางส่วนมาจากช่องแคบมะละกา, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์หรือมาเลเซีย ถูกดันขึ้นมาตามกระแสน้ำกระแสลมก็จะมาขึ้นที่นี่ ประกอบกับขยะจากเรือประมงทั้งชายฝั่งและน้ำลึก อาทิ อุปกรณ์ดักปลา แกลลอนน้ำมัน โฟม หลอดไฟ และอื่น ๆ ที่เมื่อใช้เสร็จแล้ว ทิ้งลงทะเลก็จะพัดมาที่นี่ด้วย ซึ่งปกติเราให้กำลังพลของกองการบินทหารเรือเก็บขยะดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือน รวมถึงปลูกแนวสนช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง และวันนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้ทางเครือข่ายอนาคตไทยและสมาชิกมาร่วมเก็บขยะที่ชายหาดนภาธาราภิรมย์แห่งนี้ แม้จะเป็นเพียงวันเดียว แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ทุกคนได้เสียสละเวลามาทำประโยชน์แก่ส่วนรวมร่วมกัน”
ขณะที่ นาวาตรี สนั่น แก้วจันทร์ หัวหน้าแผนกบัญชีพล กองกำลังพล กองบัญชาการ กองการบินทหารเรือ สนามบินอู่ตะเภา เสริมว่า “ถ้าสิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมโทรม ทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ ตลอดจนมนุษย์เราที่อยู่อาศัยบนโลกใบนี้ก็จะได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ถ้าเราช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์ก็จะเกื้อกูลกันทั้งหมดเพราะเป็นห่วงโซ่อาหาร ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องหันมาช่วยกันคนละไม้ละมือ ในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อธรรมชาติที่ยั่งยืน”
พร้อมกันนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่าร้อยชีวิตจาก 20 องค์กรภาคี ยังได้ร่วมกันทำกิจกรรมปลูกปะการังเทียมในฐานซีเมนต์ โดยนำไปวางเรียงใต้ทะเลบริเวณรอบเกาะไก่เตี้ย หาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธินฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของฝูงปลาและสัตว์ทะเลต่างๆ สร้างสมดุลให้ธรรมชาติและระบบนิเวศใต้ท้องทะเล ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งความรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ซึ่งตลอดการร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติด้วยแนวคิดแบบ zero waste เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณขยะให้น้อยลง
ธาตรี ลิขนะพิชิตกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันมั่นพัฒนา จาก มูลนิธิมั่นพัฒนา ในนามเครือข่ายอนาคตไทย ผู้ขับเคลื่อนแคมเปญรณรงค์ระดับชาติ ภายใต้ชื่อ “อย่าให้ใครว่าไทย” เพื่อ ลด ละ เลิก 4 พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ (โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย ขาดสติ) ได้นำทีมองค์กรภาคีรวมพลังทำดีตอบแทนสังคม ในกิจกรรม “อย่าให้ใครว่าไทยไม่รักษ์สิ่งแวดล้อม กับเครือข่ายอนาคตไทย ตอน ปลูกปะการัง ชมเต่า ไม่เอาขยะ” ณ ชายหาดนภาธาราภิรมย์ สนามบินอู่ตะเภา และชายหาดอ่าวดงตาล, เกาะไก่เตี้ย หาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธินฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี
ธาตรี ลิขนะพิชิตกุล (ซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันมั่นพัฒนา นำทีมองค์กรภาคีเครือข่ายเก็บขยะบริเวณชายหาดนภาธาราภิรมย์ สนามบินอู่ตะเภา
ตัวแทนจากองค์กรภาคีเครือข่ายกว่าร้อยชีวิตจาก 20 องค์กรภาคี ร่วมแรงร่วมใจกันเก็บขยะบริเวณชายหาดนภาธาราภิรมย์ สนามบินอู่ตะเภา อย่างขะมักเขม้น
นาวาโท อภินพ กิตติกุลวานิช นายทหารเวรยุทธการ กองการบินทหารเรือ กล่าวถึงปัญหาขยะที่ได้รับผลกระทบ พร้อมขอบคุณที่เครือข่ายอนาคตไทยที่มาทำกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้
นาวาโท อภินพ กิตติกุลวานิช นายทหารเวรยุทธการ กองการบินทหารเรือ พร้อมธาตรี ลิขนะพิชิตกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันมั่นพัฒนา ถ่ายภาพร่วมกันกับองค์กรภาคีเครือข่ายที่ร่วมกิจกรรม
ตัวแทนจากองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมแรงร่วมใจกันเก็บขยะบริเวณชายหาดอ่าวดงตาล จ.ชลบุรี อย่างไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย ท่ามกลางแสงแดดใกล้เที่ยง
ถังขยะ “อย่าให้ใครว่าไทย” ที่ทางเครือข่ายอนาคตไทย นำมามอบให้ร้านค้าบริเวณชายหาดอ่าวดงตาล จ.ชลบุรี เพื่อตอกย้ำและรณรงค์ในมิติ “อย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย”
ตัวแทนจากองค์กรภาคีเครือข่ายพร้อมใจกันปลูกปะการังเทียม คืนความสมดุลสู่ท้องทะเลร่วมกัน ก่อนจะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ทหารเรือ เป็นผู้ดำน้ำลึก (Scuba) เพื่อลงไปวางปะการังรอบเกาะไก่เตี้ย หาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธินฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี
พันเอก (พิเศษ) ทัศไนย ประทุมทอง รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดชลบุรี หรือ กอ.รมน.จังหวัดชลบุรี พร้อม ธาตรี ลิขนะพิชิตกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันมั่นพัฒนา ถ่ายภาพร่วมกันกับองค์กรภาคีเครือข่ายที่ร่วมกิจกรรม
ตัวแทนจากองค์กรภาคีเครือข่ายเข้าเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งความรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลที่สำคัญของไทย
ตัวแทนองค์กรภาคีเครือข่าย
แมว – อรสุดา ไชยโพธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย อายุ 53 ปี กล่าวว่า “ด้วยตัวเราทำงานด้าน CSR ที่นี่มาตลอดกว่า 28 ปี โดยรับผิดชอบหน่วยงานที่ดูแลส่งเสริมจรรยาบรรณเรื่องของธรรมาภิบาล กิจกรรมการสร้างเศรษฐกิจพอเพียง งานทางด้านสังคม รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้ดำเนินธุรกิจใส่ใจสังคม รับผิดชอบสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสภาหอการค้าไทยของเราก็เป็นหนึ่งใน 6 องค์กรเครือข่ายหลักเริ่มแรกในโครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ด้วย จึงได้ให้ความสำคัญในการร่วมกระตุ้นปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนหันมาใส่ใจ ลด ละ เลิก 4 พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย และขาดสติ โดยกิจกรรมสานสัมพันธ์ในวันนี้เป็นเรื่องของมิติมักง่าย ที่รณรงค์ไม่ให้ไทยทิ้ง ไทยเท ไทยมักง่าย ไปเที่ยวที่ไหนก็มีแต่ขยะ ซึ่งถ้าทุกคนช่วยกันดูแลรักษา และพร้อมใจกันดูแลความสะอาด เก็บกวาดให้เรียบร้อย ทิ้งขยะให้ลงถัง ก็จะสามารถลดปริมาณขยะได้ และไม่ใช่แค่ทำวันนี้ แต่อยากให้ทุกคนทำทุกวัน จนเกิดเป็นพฤติกรรมที่ดีต่อไป”
ต้น – เผด็จศึก สิงห์ทอง ตัวแทนจากโครงการข้อตกลงคุณธรรม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) (ACT) อายุ 38 ปี กล่าวว่า “องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เป็น 1 ในองค์กรภาคีเครือข่ายอนาคตไทย โดยหลักๆ โครงการของเราก็มีกิจกรรมรณรงค์ในมิติขี้โกงอยู่แล้ว แต่วันนี้ก็เป็นอีกมิติหนึ่ง เพราะได้มีโอกาสมาร่วมในกิจกรรมเก็บขยะและปลูกปะการัง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดี สร้างความสัมพันธ์ ให้รู้จักกัน แลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ แชร์ความรู้ของแต่ละองค์กร รวมถึงช่วยเหลือกัน เพื่อการทำงานร่วมกันภายใต้โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ในอนาคต โดยมีมูลนิธิมั่นพัฒนาเป็นตัวกลาง แม้ว่าจะทำงานที่ ACT เพียงแค่ 1 ปีกว่า แต่ก็มีความสุขที่ได้มาเจอพี่ๆ น้องๆ ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำดีตอบแทนสังคม ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนไทยให้ดีขึ้น ให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ”
ฝน – น้ำฝน คงศักดิ์ ผู้จัดการกองวัฒนธรรมองค์กรและภาพลักษณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อายุ 51 ปี กล่าวว่า “ทำงานการบินไทยมา 23 ปี รู้สึกดีและภูมิใจมาก ที่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทฯ มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยตั้งใจว่าจะนำกิจกรรมนี้ไปถ่ายทอดและจัดทำกับพนักงานของการบินไทยเช่นกัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกรักประเทศ รักสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในมิติของ “อย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย” ซึ่งจริงๆ องค์กรของเรารณรงค์ในมิติของ “อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ” แต่แน่นอนวัตถุประสงค์หลักของทุกมิติคือการให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย และขาดสติ และกิจกรรมในวันนี้ก็มีประโยชน์มาก เพราะมีจุดเริ่มต้นและมีคนที่ทำเป็นตัวอย่าง เริ่มจากจุดเล็กขยายออกไปเรื่อยๆ จากพนักงานสู่บุคลากรในองค์กร และเมื่อหลายๆ องค์กรรวมกันก็สามารถทำให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้”
นิด – วาสนา สุทธิเดชานัย ผู้จัดการสำนักงาน มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด อายุ 62 ปี กล่าวว่า “สำหรับการมาทำกิจกรรมในวันนี้ ประทับใจมาก ไม่ใช่แค่กิจกรรมที่ทำ แต่ประทับใจตั้งแต่การประสานงานของทางมูลนิธิมั่นพัฒนา ทีมงาน เจ้าหน้าที่ทหาร ทุกๆ อย่าง ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ใช่แค่การมาร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเดียว เป็นเรื่องของความอบอุ่น มิตรภาพ การสร้างเครือข่าย ซึ่งทำให้เรามองเห็นถึงความตั้งใจจริงของทุกองค์กรในการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นอย่าให้ใครว่าไทยขี้โกง อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ อย่าให้ใครว่าไทยไร้สติ หรืออย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย และการมาเก็บขยะในวันนี้ ซึ่งเราไม่เคยรู้เลยว่าขยะที่ชายหาด ไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ยังถูกพัดพามาจากที่ต่างๆ ทั้งยังมีหน่วยงานราชการอย่างทหารช่วยรักษาความสะอาดทุกวัน ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น เราต้องช่วยกันรณรงค์ต่อไป ดังนั้น การเก็บขยะจึงไม่ใช่แค่การเก็บขยะ แต่ยังสร้างจิตสำนึกที่ดีอีกด้วย”
แบงค์ – สมชาติ วิสุทธิสาย รองผู้อำนวยการ ฝ่ายพนักงานสัมพันธ์ บริหารทรัพยากรบุคคล ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) อายุ 43 ปี กล่าวว่า “รู้สึกดีมากที่ได้มาทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ สมาชิกแต่ละองค์กรในวันนี้ อย่างแรกเลยคือพวกเราอยากเป็นเครือข่ายที่ทำให้สังคมไทยดีขึ้น ทางธนาคารเองก็มีนโยบายที่จะสนับสนุนเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะด้าน HR นอกจากนี้ การเข้าร่วมเครือข่ายทางธนาคารก็ได้ร่วมรณรงค์ในมิติ “อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ” เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงิน จึงอยากนำความรู้ด้านการบริหารจัดการเงินไปต่อยอดให้กับคนอื่นๆ สำหรับการมาเก็บขยะในครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิต ได้เรียนรู้ธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและส่งผลกระทบโดยรวมต่อเราทุกๆ คน เพราะฉะนั้น ต้องช่วยกันรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม รวมถึงช่วยกันสร้างจิตสำนึกที่ดีให้ส่งต่อสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป”
เบญ – ศศิวิมล วังสว่าง ผู้บริหารส่วนสื่อสารองค์กร บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ อายุ 35 ปี กล่าวว่า “จุดประสงค์ที่เข้ามาร่วมกับเครือข่ายอนาคตไทย โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ส่วนหนึ่งบริษัทฯ มองว่าในเรื่องของยุทธศาสตร์หลักๆ ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ในการรับรู้ การเรียนรู้ ล่าสุดคือการร่วมแรง สามารถนำมาสื่อสารผลักดันองค์กรและขยายสู่ระดับสังคมได้ ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ เป็นมิติของ “อย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย” เกี่ยวกับเรื่องของขยะ ความสะอาด ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดจิตสำนึกและสร้างพลังร่วมแรงร่วมใจ มีการลงมือทำแบบจริงจัง ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมที่ดีมากๆ โดยส่วนตัวชอบการปลูกปะการัง เพราะน้อยคนที่จะได้มีโอกาสทำแบบนี้ คิดว่าถ้ามีกิจกรรมอย่างนี้จัดขึ้นอีกจะมาร่วมแน่นอนค่ะ”