“ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์”ประธานกรรมการบริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส
เทพหุ้น บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะซื้อหุ้นRICHY ให้เป้าราคาเป้าหมาย 1.90 บาท คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลพุ่งแตะ 12 %รับอานิสงส์จากกำไร ปี61สูงสุดประวัติการณ์ ลุ้นจ่ายปันผลเป็นหุ้นอีกครั้ง เชื่อตุนเงินสดไว้ซื้อที่ดิน ด้าน”ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์”ประธานกรรมการบริหารเผยปีนี้เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)เผยแพร่บทเคราะห์หุ้น บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือRICHY โดยให้ราคาเป้าหมาย 1.90 บาท เนื่องจากคาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลปี 61 จะสูงเป็น 12.1% ด้วยนโยบายอัตราการจ่ายปันผล (Payout Ratio) ที่ 40% และไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลในรอบครึ่งปี 61 จึงจะได้รับปันผลอย่างเต็มที่ อีกทั้งใช้เวลารอการจ่ายปันผลไม่นาน คือ ปกติ XD ต้นเดือนพ.ค. และจ่ายปันผลช่วงปลายเดือนพ.ค.
สาเหตุที่จ่ายปันผลได้สูง เพราะคาดการณ์กำไรหลักปี 61 ทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 498 ล้านบาท เพิ่ม 275% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปีนี้มีการโอนคอนโด ริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่น จำนวนมากจึงสนับสนุนการเติบโตของกำไร
ทั้งนี้มองว่า บริษัทริชี่ฯอาจจะจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ หลังจากปี 59 และ 60 ที่ผ่านมาก็ได้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญมาแล้วเช่นกัน อีกทั้งตามแผนงานบริษัทแล้ว ในปี 62 จะมีการลงทุนซื้อที่ดินใหม่ในวงเงินราว 3 พันล้านบาท เพื่อเปิด 4 โครงการใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ The Rich และ Rich Park จึงอาจจะเก็บเงินสดไว้เพื่อลงทุนต่อไป
สำหรับกำไรหลักในไตรมาส 4/61 คาดว่า ยังเติบโตได้สูง ประมาณ 100 ล้านบาท เพิ่ม 57%จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรหลักต่อหุ้นเป็น 0.10 บาท เพิ่มน้อยกว่าเป็น 46% จากงวดเดียวกันปีก่อนเพราะเป็นผลจากจำนวนหุ้นเพิ่มในการปันผลเป็นหุ้นงวดปี 60
อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันการเติบโตมาจากรายได้การขายเพิ่ม 39% จากงวดเดียวกันปีก่อนเป็น 763 ล้านบาท คือยังมีการโอน โครงการริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่นในจำนวนสูง อย่างไรก็ตามกำไรหลักลดลง 35% จากงวดไตรมาส 3/61 เพราะกำไรไปทำจุดสูงสุดไตรมาส2/61 ที่ 206 ล้านบาทไปแล้ว
แม้คาดการณ์กำไรหลักปี 62 จะลดลง แต่ไม่ถึงกับต่ำเกินไป และไม่น่ากังวล ซึ่งคาดว่ากำไรหลักในงวดปี 62 เป็น 292 ล้านบาท ลดลง 41%จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไม่มียอดขายรอโอน (Backlog) ที่มากนัก ต่างจากปี 61 ที่มีคอนโด ริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่น มีการยอดโอนจำนวนมาก
ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ เพราะเห็นว่าความกังวลมาตรการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยธปท. (LTV) ทำให้หุ้นปรับลงมากไปจนราคาหุ้นถูก โดยP/Eและ P/BV ปี 61 เป็น 3.3 และ 0.7 เท่า ตามลำดับ และปี 62 เป็น 5.6 และ 0.7 เท่าตามลำดับ ซึ่งกำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 1.90 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 61 ที่ 4.0 เท่า เทียบเท่า P/E ปี 62 ที่ 6.8 เท่า ถือว่ายังน่าสนใจซื้อรับปันผลที่สูง ด้านคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 62 เป็น 7.1%
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 ได้มีการเตรียมงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อเปิดโครงการใหม่ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดใหม่ 4 โครงการ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมดภายใต้แบรนด์The rich และ Rich Park มูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับนักลงทุน
“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 รายได้และกำไรจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะแตะระดับ 3 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1.32 พันล้านบาท และกำไรนิวไฮเช่นเดียวกัน”ดร.อาภากล่าว
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)เผยแพร่บทเคราะห์หุ้น บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือRICHY โดยให้ราคาเป้าหมาย 1.90 บาท เนื่องจากคาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลปี 61 จะสูงเป็น 12.1% ด้วยนโยบายอัตราการจ่ายปันผล (Payout Ratio) ที่ 40% และไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลในรอบครึ่งปี 61 จึงจะได้รับปันผลอย่างเต็มที่ อีกทั้งใช้เวลารอการจ่ายปันผลไม่นาน คือ ปกติ XD ต้นเดือนพ.ค. และจ่ายปันผลช่วงปลายเดือนพ.ค.
สาเหตุที่จ่ายปันผลได้สูง เพราะคาดการณ์กำไรหลักปี 61 ทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 498 ล้านบาท เพิ่ม 275% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปีนี้มีการโอนคอนโด ริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่น จำนวนมากจึงสนับสนุนการเติบโตของกำไร
ทั้งนี้มองว่า บริษัทริชี่ฯอาจจะจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ หลังจากปี 59 และ 60 ที่ผ่านมาก็ได้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญมาแล้วเช่นกัน อีกทั้งตามแผนงานบริษัทแล้ว ในปี 62 จะมีการลงทุนซื้อที่ดินใหม่ในวงเงินราว 3 พันล้านบาท เพื่อเปิด 4 โครงการใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ The Rich และ Rich Park จึงอาจจะเก็บเงินสดไว้เพื่อลงทุนต่อไป
สำหรับกำไรหลักในไตรมาส 4/61 คาดว่า ยังเติบโตได้สูง ประมาณ 100 ล้านบาท เพิ่ม 57%จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรหลักต่อหุ้นเป็น 0.10 บาท เพิ่มน้อยกว่าเป็น 46% จากงวดเดียวกันปีก่อนเพราะเป็นผลจากจำนวนหุ้นเพิ่มในการปันผลเป็นหุ้นงวดปี 60
อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันการเติบโตมาจากรายได้การขายเพิ่ม 39% จากงวดเดียวกันปีก่อนเป็น 763 ล้านบาท คือยังมีการโอน โครงการริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่นในจำนวนสูง อย่างไรก็ตามกำไรหลักลดลง 35% จากงวดไตรมาส 3/61 เพราะกำไรไปทำจุดสูงสุดไตรมาส2/61 ที่ 206 ล้านบาทไปแล้ว
แม้คาดการณ์กำไรหลักปี 62 จะลดลง แต่ไม่ถึงกับต่ำเกินไป และไม่น่ากังวล ซึ่งคาดว่ากำไรหลักในงวดปี 62 เป็น 292 ล้านบาท ลดลง 41%จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไม่มียอดขายรอโอน (Backlog) ที่มากนัก ต่างจากปี 61 ที่มีคอนโด ริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่น มีการยอดโอนจำนวนมาก
ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ เพราะเห็นว่าความกังวลมาตรการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยธปท. (LTV) ทำให้หุ้นปรับลงมากไปจนราคาหุ้นถูก โดยP/Eและ P/BV ปี 61 เป็น 3.3 และ 0.7 เท่า ตามลำดับ และปี 62 เป็น 5.6 และ 0.7 เท่าตามลำดับ ซึ่งกำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 1.90 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 61 ที่ 4.0 เท่า เทียบเท่า P/E ปี 62 ที่ 6.8 เท่า ถือว่ายังน่าสนใจซื้อรับปันผลที่สูง ด้านคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 62 เป็น 7.1%
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 ได้มีการเตรียมงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อเปิดโครงการใหม่ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดใหม่ 4 โครงการ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมดภายใต้แบรนด์The rich และ Rich Park มูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับนักลงทุน
“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 รายได้และกำไรจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะแตะระดับ 3 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1.32 พันล้านบาท และกำไรนิวไฮเช่นเดียวกัน”ดร.อาภากล่าว