| |

Luxury Trends – เทรนด์ลักซูรี (ลักซ์ชัวรี่) แบรนด์หรู อนาคตของสินค้าระดับท็อป พรีเมี่ยม จะรุ่งหรือร่วง


สินค้าและบริการระดับลักซูรี (ลักซ์ชัวรี่) จะไปในทิศทางใด เราลองมาดูภาพรวมและข้อมูลการคาดการณ์ และสิ่งที่หลายๆฝ่ายได้วิเคราะห์และคาดว่าจะเป็นสิ่งที่เราจะได้เห็นตลอดปีนี้ มีหลายๆเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ที่ส่งผลกระทบสำคัญ เช่น โรคระบาด Covid -19 ทำให้ใครหลายๆคนกังวลใจ และไม่มั่นใจกับทิศทางของตลาดในหลายปีที่ผ่านมา

บทความโดย วนิดา ทาร์ดิเวล Wanida Tardivel

ตลาดรถยนต์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น เบนซ์เน้นเพิ่มยอดขายกลุ่มคนรุ่นใหม่ เศรษฐีใหม่ คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ ใช้การตลาดออนไลน์ และที่มาแรง ที่ไม่พ้นคือ เจ้าตัวรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตดีกว่าปีที่แล้ว รวมถึงแบรนด์รถหรูอย่าง แอสตัน มาร์ติน ซุปเปอร์คาร์ และหลายๆบริษัทต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มั่นใจว่าปีนี้จะมีโอกาศขยายยอดจำหน่ายหลายๆแบรนด์เปิดตัวปุ๊ปยอดจองหมดภายในเวลาสั้นๆ การตลาดรถหรูเน้น “ไลฟ์สไตล์แบบแตกต่าง มีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งมี่ทำให้เขาและเธอเจ้าของสินค้าเหล่านั้นมีความโดดเด่น เป็นที่จับตามองของสังคม

จะมีคำนิยามใหม่ขึ้นมานั้นคือคำว่า Womenomic มาจากคำสองคำรวมกันนคือคำว่า Woman และ Economic ผู้หญิงมีโดดเด่นและมีบทบาทมากขึ้นทั่วโลกส่วนแบรนด์หรูและประเภทชายที่โดดเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีท่าที่จะต้องปรับกลยุทธ์ของพวกเขาในการเข้าถึงผู้ชมหญิงที่เพิ่มขึ้นโครงการ มีการประมาณการไว้ว่าผู้หญิงจะควบคุม 75% ของการใช้จ่ายเกี่ยวกับการตัดสินใจทั่วโลก คาดว่ารายได้ทั่วโลกของสินค้าหรูสำหรับผู้หญิงจะฉุดไม่อยู่โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาได้รับรายได้ในกลุ่มผู้หญิงที่มีการเติบโตในอัตรา 8.1% เมื่อเทียบกับ 5.8% สำหรับผู้ชาย ในประเทศจีนโดยเฉลี่ยของผู้หญิงที่จะมีรายได้สู่ครัวเรือนเพิ่มขึ้นถึง 50% และจะมีทิศทางที่ปรับสูดต่อไปอีกในอนาคต สินค้าหลายๆแบรนด์ดัง อาทิ กุชชี่ ได้เปิดตัว การเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสร้างพลังหญิงในขณะที่Hermèsเพิ่งจัดแฟชั่นโชว์ที่ทุ่มเทให้กับพลังของผู้หญิงและ Tory Burch ได้จัดตั้งเวทีสำหรับผู้ประกอบการหญิง ผู้หญิงประเภทสวย รวย และเก่ง จะมีเพิ่มมากขึ้น

ตลาดเครื่องสำอางค์ สินค้าเกี่ยวกับความสวยความงาม ยังคงสดใส และคนหนุ่มสาวจำนวนมากสนใจและสามารถที่จะซื้อสินค้าหรูหรา สำหรับแบรนด์ที่สามารถมีส่วนร่วมกับกลุ่มโดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีอายุน้อย มีความภักดีต่อแบรนด์ พวกเขาจะผู้มีบทบาทชี้ขาดในการเจริญเติบโตของแบรนด์และสินค้า

ตลาดในจีนมีความแตกต่างประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย มีผู้บริโภคจำนวนมาก ที่มีศักยภาพมหาศาล เป็นตลาดที่มีความท้าทายสำหรับแบรนด์หรู เพราะต้องใช้กลยุทธที่แยบยลและมีวิวัฒนาการ จีนเป็นประเทศที่ผู้ประกอบการเกือบทุกประเภทต่างเทคะแนนว่า ภาพรวมธุรกิจจะโตขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10% ซึ่งเป็นมูลค่ารายได้แบบมหาศาล

วงการแฟชั่น ยักษ์ใหญ่อย่างหลุยส์วิตตอง ผู้บริหารระดับสูงให้ความมั่นใจว่าปีนี้แฟชั่นของกลุ่มและหมวดเครื่องหนัง คาดจะมีขายขยายตัวเติบโต ทิฟฟานี่และราล์ฟลอเรน สามารถทำรายได้ในเปอร์เซ็นต์สูงของยอดขายในต่างประเทศ เน้นจีน, รัสเซีย, สื่อภาพยนตร์ ในความพยายามที่จะเชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมแฟชั่นออนไลน์ของพวกเขา จะมีการแนะนำแบรนด์บริการสื่อสังคมใหม่ จากห้องพักส่วนตัวที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ รันเวย์สาธารณะ ร้านค้าปลีกเป็นการบูรณาการเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถออกอากาศแฟชั่นล่าสุดของคุณผ่านสมาร์ทโฟนได้ เทรนด์การออกกำลังกายจะมายึดเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณ ด้าน E Commerce สินค้าระดับลักซูรี ฮ่องกงและจีนเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของ “เมื่ออีคอมเมิร์ซมีการเติบโตที่สามหรือสี่เท่าของอัตราตลาดโดยรวมถ้าคุณกำลังมุ่งเน้นไปที่ E-Commerce สินค้าและแบนด์ของคุณ จะเติบโต และแบ่งส่วนของตลาดต่อไป

สำหรับแนวโน้มในอนาคตของห้างสรรพสินค้าหรูในเอเชีย จะต้องมีมากกว่าเพชร นักออกแบบแฟชั่นที่จะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ จำเป็นต้อง “ว้าว” ตลาดเป้าหมายของพวกเขาด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและประสบการณ์แบบ “Bespoke” เอเชียยังคงแซงหน้าส่วนที่เหลือของโลก สิ่งที่เกิดขึ้นคือชนชั้นกลางที่ต้องการมีตัวตนหรือเราเรียกว่า “I wanna be” กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วกับแบรนด์แฟชั่นใหม่ที่สามารถเข้าถึงได้ มีบางโครงการใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดลูกค้า “กูตูร์” ที่กำหนดเอง ชั้นวางของในแบบป๊อปอัพ

ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ร้านโอมากาเสะจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขั้น เน้นในจุดศูนย์กลาง ย่านที่อยู่อาศัยที่ไฮโซ สู่แหล่งช้อปปิ้งหรู เน้นประสบการณ์ เชฟชื่อดังที่มีห้องครัวเปิดเหมือนงานโชว์ศิลปะ เสมือนห้องทดลองวิทยาศาสตร์ บรรยากาศสบายๆ เน้นสนุกสนานเป็นกันเอง

สินค้าประเภทนาฬิกาหรูนำเข้าจากประเทศสวิทเซอร์แลนด์​ หลายคนมีความกังวลใจหลังจาก ธนาคารกลาง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการยกเลิกผูกค่าเงินฟรังก์สวิสไว้กับค่าเงินยูโร ด้วยเหตุผลที่ยกเลิกไปก็เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากประกาศแล้วค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นมาทันทีราว 30% แน่นอนย่อมส่งผลโดยตรงกับราคาสินค้าที่จะเพิ่ม แต่ก็มีอีกหลายทัศนะคติเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายฝ่ายก็ได้ประเมินและมองอีกมุมหนึ่งว่า สินค้าจากประเทศสวิทเซอร์แลนด์ ส่วนใหญ่จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ ไฮโซ ไฮเอ็นด์ซึ่งถ้ามองจริงๆ เป็นกลุ่มที่มีศกยภาพและมีกำลังในการใช้จ่าย สินค้าประเภทนาฬิกา เป็นกลุ่มสินค้าพิเศษ มีคุณค่าทางจิตใจ ผู้ซื้อมีความภูมิใจที่สามารถซื้อได้และมีความมั่นใจว่าสินค้าที่ตนซื้อนั้นเป็นสิ่งพิเศษ เหมาะสำหรับตนและมอบให้คนพิเศษ

สินค้าระดับลักซูรีกำลังก้าวสู่การตลาดแบบใหม่ แน่นอนผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัว เพื่อรองรับความต้องการและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของตน แต่ส่วนตัวแล้วยังมีความมั่นใจว่า หนทางข้างหน้ายังมีความสดใสสวยงามแม้ว่าจะท้าทายรออยู่บ้างก็ตาม


Similar Posts