แนะนำ! 3 วิธีลดพุงล่างโดยไม่ต้องพึ่งการออกกำลังกาย


แน่นอนว่าไม่ว่าใครก็ต้องอยากมีหุ่นเฟิร์มสุขภาพดีไร้ไขมัน แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่ต้องทำงานหนัก ใช้ชีวิตนอกบ้านเยอะ ก็ทำให้การออกกำลังกายไม่ใช่ทางออกสำหรับปัญหา โดยเฉพาะเมื่อมีพุงยื่นออกมา การจะลดได้มันช่างยากเย็น โดยเฉพาะการลดพุงล่างที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของหุ่นสวย วันนี้เราจึงมีวิธีลดพุงล่างโดยไม่ต้องออกกำลังกายที่ได้ผลจริงมาฝากกัน

1. ได้รับไฟเบอร์ในปริมาณที่เพียงพอ

นอกจากประโยชน์ในการกระตุ้นการขับถ่ายแล้ว ไฟเบอร์หรือใยอาหารยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายนำเอาไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น โดยเฉพาะใยอาหารละลายน้ำ ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับอาหารที่ละลายน้ำได้ดี ทำให้ลำไส้สามารถย่อยและดูดซึมอาหารได้ช้าลง ช่วยลดอัตราการดูดซึมน้ำตาลซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการลงพุง อีกทั้งยังสามารถพองตัวเป็นเจลในลำไส้ ลดปริมาณพื้นที่ในกระเพาะอาหาร โดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานแคลอรี จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนักและลดพุงล่างได้ 

2. ลดความเครียด

รู้หรือไม่ว่าแค่ลดความเครียดก็สามารถช่วยลดพุงล่างได้! เพราะเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายของเราจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติโซลหรือฮอร์โมนความเครียดขึ้นมา ทำให้เกิดความอยากอาหารและของหวานมากขึ้น รวมถึงยังทำให้การหายใจถี่และตื้นกว่าเดิม จนออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายน้อยกว่าที่ควร ทำให้กระบวนการเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ 

สำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเครียด ควรสรรหากิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ นอนหลับพักผ่อน หรือเน้นการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ พิลาทีส เพื่อให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย และอาจยับยั้งอารมณ์เมื่อเกิดความเครียดได้ด้วยการหายใจช้า ๆ ลึก ๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้หัวใจเต้นช้าลง สมองจะได้ปลอดโปร่งขึ้น 

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับไม่เพียงพอจะกระทบต่อฮอร์โมนให้ทำงานผิดปกติ และส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ฮอร์โมนเกรลินที่กระตุ้นความหิวเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความอิ่มลดลง อีกทั้งการนอนน้อยยังจะกระตุ้นให้ร่างกายต้องการอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ จึงเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้น้ำหนักขึ้น และเกิดพุงหย่อนคล้อย ดังนั้นการดูแลให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอจึงสามารถช่วยลดพุงล่างได้ โดยควรพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง และสำหรับคนที่นอนหลับยาก อาจต้องหลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อหนักหรืออาหารที่มีรสจัด อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน หรือลองแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น ทำสมาธิเพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย สามารถนอนหลับได้อย่างสงบ อีกวิธีที่สามารถทำได้คือการกินอาหารที่มีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยคลายเครียด ลดความกังวล เช่น กล้วยหอม


Similar Posts