ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการ ผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET


 PLANET รุกธุรกิจปี 62 เต็มสูบ!! หลังโชว์กำไรปี 61 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 118.60 % เหตุปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นธุรกิจบริการจนดันรายได้พุ่ง ด้านบิ๊กบอส “ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์” มั่นใจปีนี้ เทิร์นอะราวด์เต็มตัว เดินหน้าสร้างฐานลูกค้าใหม่ และเข้าประมูลด้านสื่อสารโทรคมนาคมต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% หรือแตะระดับ 1,000 ล้านบาท
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการ ผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี2562 บริษัทฯ จะเดินหน้าขยายการเติบโตของธุรกิจอย่างเต็มสูบ หลังจากผลประกอบการ ในปี 2561 เติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีรายได้รวม 749.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.02 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 675.24 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 5.88 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 118.60 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 31.62 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่ผลประกอบการในปี2561 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากบริษัทฯ มุ่งเน้นธุรกิจด้านนี้มากขึ้น นอกจากนี้ การส่งมอบงานโครงการต่างๆ สามารถทำได้ดีกว่าปีก่อน ที่สำคัญบริษัทฯสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
นายประพัฒน์ กล่าวต่อ ถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2562 ว่า ทิศทางในทุกกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก ประกอบด้วยกลุ่มจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เกี่ยวกับโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ PlanetComm ต่างๆ รวมถึง กลุ่มธุรกิจจากการขายบริการ เกี่ยวกับการติดตั้ง บริการหลังการขาย ค่าซ่อมอุปกรณ์สื่อสาร และกลุ่มธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการ ถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดีมากๆเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาก บริษัทฯเป็นผู้ประกอบการ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจรนี้เป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย จึงได้รับความไว้วางใจใช้บริการจากลูกค้ามาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
“การดำเนินธุรกิจในปีนี้ มั่นใจว่า จะสามารถเติบโตได้ดี และสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากแนวโน้มธุรกิจที่ดีในข้างต้น ประกอบกับการเน้นลดต้นทุนค่าใช้จ่ายองค์กรแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างรายได้ใหม่จากปี2561 ที่เดิมมีสัดส่วนรายได้หลักจากธุรกิจจำหน่ายสินค้า 70%, ธุรกิจจากการขายและบริการ 26% และธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการ 4% มาเป็นการปรับลดสัดส่วนจากธุรกิจจำหน่ายสินค้าลงเหลือ 64%, ลดสัดส่วนรายได้ธุรกิจจากการขายบริการลงเหลือ 25% และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการเป็น 11%”
          “การปรับลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการขายสินค้า มาเน้นในส่วนธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการมากขึ้นนั้นจะทำให้บริษัทฯรับรู้กำไรมากขึ้น ซึ่งในปี2562 จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเพิ่มยอดขาย ไปพร้อมๆกับการรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มในส่วนลูกค้าใหม่ รวมทั้งจะทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทางด้านเทคโนโลยีที่เน้นเพื่อตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นายประพัฒน์กล่าว
นายประพัฒน์ กล่าวต่อ ถึงงานประมูลโครงการใหม่ๆจากภาครัฐและเอกชน ว่า ในปี 2562 น่าจะมีจำนวนมาก และบริษัทฯ จะเน้นเข้าร่วมประมูลโดยเน้นโครงการใหญ่ๆ ซึ่งหากมีความชัดเจนจะประกาศให้ทราบอย่างแน่นอน ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% หรือแตะระดับ 1,000 ล้านบาท

Similar Posts