10 บาร์ ที่น่าแวะไปนั่งชิลแบบสบายๆ

สีสันชีวิตกลางคืนของกรุงเทพฯ คงไม่ต้องอธิบายความกันมากว่าเจิดจ้าและหลากหลายแค่ไหน ตั้งแต่ดวงตะวันลับขอบฟ้า แสงนีออนส่องสว่าง มีสถานที่กินดื่มสังสรรค์มากมาย ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับแขกผู้แวะมาเยือน

เรื่องโดย ทรงยศ กมลทวิกุล และ Luxury Society team 

แน่นนอนว่าบรรดาคลับบาร์ต่างๆ นั้นมีหลากหลายระดับ ทั้งราคา หน้าตา รูปแบบการให้บริการ ขึ้นอยู่กับว่าชื่นชอบแบบใด ย่านใด และรสนิยมแบบไหน วันนี้เราคัดเลือกสิบบาร์เด่นมี่น่าสนใจที่นักดื่มนักท่องราตรีไม่ควรพลาดทั้งย่านทองหล่อ สาธร และแถบเยาวราชมาฝากกัน

U.N.C.L.E (72 Courtyard )

บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ย่านทองหล่อ 72 Courtyard บนชั้นสามคือที่ตั้งของ U.N.C.L.E ภายในออกแบบตกแต่งได้อย่างมีรสนิยม โดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ นอกไปจากนั้นยังมีส่วนของระเบียงที่สามารถนั่งดื่มชมบรรยากาศผู้คนที่มาเยือน 72 Courtyard ได้ด้วย เครื่องดื่มได้บาร์เทนเดอร์ชาวสวีเดน Phillip Stefanescu ผู้ที่เคยรังสรรค์เครื่องดื่มให้กับ U.N.C.L.E สาขาสาธร มาสร้างสรรค์ให้เช่นเคย เครื่องดื่มของที่นี่ไม่ได้เป็นเหล้าราคาแพงเหมือนกับสาขาอื่น หลายแก้วราคาสบายๆ

 

Beam

เรายังคงอยู่ที่ 72 Courtyard ขยับลงมาชั้นใต้ดิน ทำไมนะเหรอ เราลงมาเพื่อจะขยับตัวโยกย้ายไปตามจังหวะดนตรีอันสุคมันส์ของคลับแห่งใหม่ย่านทองหล่อที่มีชื่อว่า Beam ภายในตกแต่งแนวมินิมอลสไตล์โกดัง มาพร้อมกับระบบแสงสีเสียงสุดโปร ทั้งสองชั้นของ Beam เปิดเพลงคนละแบบให้ได้เลือกฟัง ไฮไลท์ของ Beam คือ “body kinetic” แดนซ์ฟลอร์ที่ทำให้พื้นสั่นสะเทือน เบสหนักๆ สะเทือนหัวใจ ทำเอาขาแดนซ์เต้นกันจนลืมเหนื่อย

 

Mikkeller

ใครชอบดื่มคราฟท์เบียร์ยกมือขึ้น ถ้าคุณยกมือเราขอแนะนำให้แวะไปที่เอกมัยซอย 10 เพื่อพบกับร้าน Mikkeller ร้านนี้เป็นคราฟท์เบียร์แบรนด์ดังจาก Denmark ร้าน Mikkeller นำเอาบ้านเก่ามาปรับปรุงใหม่ได้เก๋ไก๋ เปิดประตูบ้านเข้าไปด้านในจะเจอกับเคาน์เตอร์บาร์อยู่ตรงกลางร้านเลย เหนือบาร์จะมีกระดานที่จะเขียนรายการเบียร์สดเอาไว้ 30 แบบ ซึ่งเจ้ารายการเบียร์นี้จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ใครที่ชอบดื่มเบียร์ก็จะเข้าทางเลย หากอยากลองให้ได้หลากหลายทางร้านมีแก้วขนาดเล็กให้บริการด้วย มีอาหารหลายเมนูให้เลือกแกล้มกับเบียร์

Rabbit Hole

เปิดประตูบานใหญ่หน้าร้าน ก้าวเข้าไปสู่รังกระต่าย ที่ซึ่งมีบรรยากาศตกแต่งน่าสนใจหลายมุมให้ได้นั่งลงสนทนาพูดคุยในหมู่เพื่อนฝูง บริเวณเคาน์เตอร์บาร์โดดเด่นสะดุดตาด้วยผนังสูงที่จัดทำเป็นลิ้นชักสีทองแดงแวววาวสะท้อนแสงไฟ เครื่องดื่มของที่นี่ได้คุณชาช่า สุวิญชา สิงห์สุวรรณ บาร์เทนเดอร์ยอดฝีมือที่เคยคว้ารางวัลอันดับที่ 4 ของโลกจากการแข่งขันเวที Barcadi Legacy Cocktail มาเป็นคนสร้างสรรค์ให้ มีหลายตัวที่น่าสนใจ อาทิ White Truffle Martini, Queen Of Heart, Cosa Nostra

Let The Boy Die

ใครที่เป็นแฟนซีรีย์ชื่อดังของ HBO อย่าง The Game Of Thrones ย่อมจะต้องรู้จักกับประโยคนี้ Let The Boy Die แต่นี่ไม่ใช่หนังแต่เป็นร้านคราฟท์เบียร์ไทยชื่อดัง จะว่าไปแล้วนี่คือเจ้าแรกของร้านที่บุกเบิกคราฟท์เบียร์ไทยก็คงจะไม่ผิดนัก คราฟท์เบียร์ของที่นี่เป็นฝีมือของคนไทยล้วนๆ ร้านไม่ใหญ่มากแต่ตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ ที่โดดเด่นย่อมต้องเป็นคราฟท์เบียร์อย่างไม่ต้องสงสัย เมนูเบียร์นั้นจะเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ผู้มาชิมได้ลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ

ll FUMO

คุณอาจจะมาร้านนี้เพื่อดื่ม แต่สุดท้ายแล้วจบลงที่ดินเนอร์ชุดใหญ่ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่นี่คือ Bar & Resturant ที่บริหารโดย ทีมงาน Vesper ร่วมกับเชฟ Luca Appino ซึ่งให้น้ำหนักไปที่อาหารประเภทย่างโดยมีเนื้อและวัตถุดิบชั้นดีจากหลากหลายแหล่งในยุโรปที่เชฟคัดสรรมานำเสนอ บ้านหลังใหญ่ถูกตกแต่งให้เป็นเสมือนวิลล่าที่หรูหรา ที่นี่นอกจากจะได้นั่งลงดื่มเครื่องดื่มแล้วยังจะได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารอร่อยด้วย

Havana Social

ลึกลับดูน่าค้นหา อาจเป็นนิยามที่ใช้กับบาร์แห่งนี้ได้ บรรยากาศการออกแบบตกแต่งร้านนั้นทำได้อย่างน่าสนใจ มันนำผู้มาเยือนกลับไปยังคิวบาในยุค 40 ที่ไม่ว่าใครเมื่อได้มาเยือนจะต้องประทับใจ ค๊อกเทลของที่นี่น่าสนใจหลายตัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะคลาสสิคค๊อกเทลสไตล์คิวบา อาทิ Cuba Libre ทว่าเมื่อมาเยือนที่นี่แล้วเราไม่อยากให้คุณพลาด Hemmingway Daiquiri

Bricks & Bone

นี่คือร้านอาหารแบบอเมริกัน บรรยากาศร้านออกแนวดิบๆ ผสมผสานแนว loft เมนูอาหารเป็นแบบอเมริกันแต่ปรับรสชาติให้มีรสจัดหน่อยเพื่อให้เข้ากับคนไทย เครื่องดื่มของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเบียร์ ค๊อกเทล เราอยากแนะนำให้ลองเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า D-Day ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากสงคราม โดยส่วนผสมเป็นเหล้า 5 ชนิดรสชาติดุดัน แก้วนี่น่าจะเหมาะกับหนุ่มๆ

The House on Sathorn

ที่นี่โดดเด่นด้วยตัวอาคารที่เป็นบ้านเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปฯ รายละเอียดต่างๆ ของบ้านถูกบูรณะเก็บรักษาไว้อย่างได้ดี โรงแรม W Bangkok ฟื้นคืนชีวิตอาคารหลังนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง วันนี้ถูกเปิดเป็นบาร์และร้านอาหารสุดเท่ ด้านในแบ่งเป็นสองส่วนคือ The Dinnig Room และ The Bar การได้มานั่งดื่มในอาคารโคโลเนี่ยนหลังประวัติศาตร์แห่งนี้นับว่าคุ้มค่า